ผู้หญิงใส่ชุดบิกินี่เล่น Free Diving ได้ไหม? เคล็ดลับเลือกบิกินี่ให้เหมาะกับการดำน้ำสุดชิค
สำหรับปัจจุบันนั้นการดำน้ำได้กลายเป็นกิจกรรมยอดฮิตของผู้หญิงยุคใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการ Snorkeling, Scuba Diving หรือ Free Diving ที่ต่างก็ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง เพราะว่ากิจกรรมเหล่านี้ไม่ใช่แค่ได้สัมผัสความงดงามของใต้ทะเลเท่านั้น แต่ยังเป็นการฝึกสมาธิ ฝึกการควบคุมลมหายใจ และได้ใช้เวลาร่วมกับธรรมชาติอย่างแท้จริง โดยเฉพาะการดำน้ำแบบ Free Diving ที่เป็นกิจกรรมทางน้ำที่ไม่ใช่แค่ท้าทายร่างกาย แต่ยังสื่อถึงความอิสระ และสง่างามในทุกการเคลื่อนไหว
โดยสาวๆ หลายคนที่กำลังสนใจกิจกรรมนี้อาจสงสัยว่าสามารถใส่ชุดบิกินี่เล่น Free Diving ได้หรือไม่? เพราะภาพจำของนัก Free Diving ส่วนใหญ่มักสวมใส่ Wetsuit ที่กระชับร่างกาย เพื่อป้องกันอุณหภูมิเย็นจัดใต้น้ำ แต่ในปัจจุบันโลกแฟชั่น และฟิตเนสเริ่มเปิดกว้างมากขึ้น ทำให้ชุดบิกินี่จึงไม่ได้เป็นเพียงชุดสำหรับการอาบแดด หรือเดินชายหาดอีกต่อไป แต่กลับกลายเป็นทางเลือกหนึ่งของสาวๆ ที่ต้องการความคล่องตัว สวยชิค และไม่พลาดที่จะถ่ายภาพสุดปังขณะดำดิ่งลงใต้ทะเลด้วย
ดังนั้น ในบทความนี้ทาง Rip Curl ก็จะพาสาวๆ ทุกคนมาทำความรู้จักกับ Free Diving ว่าคืออะไร พร้อมไขข้อสงสัยว่าผู้หญิงใส่ชุดบิกินี่เล่น Free Diving ได้หรือไม่ และควรเลือกแบบไหนถึงจะปลอดภัย ไม่โป๊ ไม่หลุด และเหมาะกับการเคลื่อนไหวใต้น้ำมากที่สุด เพราะความมั่นใจนั้นเริ่มต้นจากการเลือกชุดที่ใช่ทั้งในเรื่องของสไตล์ และฟังก์ชัน โดยจะมีรายละเอียดอย่างไรบ้าง สามารถติดตามกันได้เลย!


1. ทำความรู้จักกับ Free Diving คืออะไร? ทำไมถึงเป็นที่นิยมของคนรักกิจกรรมทางน้ำ
“Free Diving” คือ การดำน้ำอีกรูปแบบหนึ่งต้องใช้สมาธิขั้นสูง หรือเป็นการดำน้ำที่ใช้ Snorkel ไม่ใช้ถังออกซิเจน และไม่สวมชูชีพ แต่จะใช้ตีนกบ เพื่อช่วยให้สามารถดำลงไปใต้น้ำได้ลึกยิ่งขึ้น หรือเรียกง่ายๆ ว่าเป็นการดำน้ำโดยไม่ใช้อุปกรณ์ช่วยหายใจใดๆ ใต้น้ำ แต่นักดำน้ำจะต้องกลั้นหายใจตลอดระยะเวลาที่อยู่ใต้น้ำ และใช้ทักษะการควบคุมลมหายใจเป็นหลัก ซึ่งต่างจาก Scuba Diving ที่พึ่งพาอุปกรณ์เพื่ออยู่ใต้น้ำได้นาน
โดยขั้นต่ำนั้นนักดำน้ำจะต้องลงไปใต้ท้องทะเลอย่างน้อย 5 เมตรขึ้นไป ทำให้นักดำน้ำจะต้องใช้สมาธิขั้นสูง เพราะว่าจะต้องจดจ่ออยู่กับลมหายใจของตัวเองตั้งแต่การกลั้นลมหายใจให้ดีก่อนดำน้ำ จึงทำให้ลักษณะของ Free Diving เน้นการผ่อนคลาย ความสงบ และสมาธิ เพราะนักดำน้ำจะต้องฝึกการควบคุมร่างกาย และจิตใจให้สามารถดำดิ่งลงไปลึกได้โดยไม่เกิดอาการตื่นตระหนก และระบบการฝึกมักเริ่มจากการฝึกการหายใจ การลอยตัวบนผิวน้ำ ไปจนถึงการดำน้ำลงลึก โดยไม่มีเครื่องช่วย
โดยกระบวนการทั้งหมดนี้จะทำให้นักดำน้ำสามารถจดจ่อ และมีสมาธิกับวิวใต้ทะเลมากขึ้น พร้อมทั้งได้ใกล้ชิด และเป็นมิตรกับธรรมชาติมากยิ่งขึ้น และเหตุผลที่ทำให้ Free Diving เป็นที่นิยมมากในกลุ่มของคนรักกิจกรรมทางน้ำ มีดังนี้
ความสงบ และสมาธิ เพราะว่าการฝึกควบคุมลมหายใจส่งผลดีต่อสุขภาพจิต ทำให้เหมือนการทำสมาธิขณะอยู่ใต้น้ำ และรู้สึกสงบมากขึ้น
อิสระในการเคลื่อนไหว เพราะว่าการดำน้ำแบบ Free Diving ไม่มีอุปกรณ์พะรุงพะรัง ทำให้นักดำน้ำสามารถเคลื่อนไหวใต้น้ำได้อย่างอิสระ ดูสง่างาม และเป็นธรรมชาติ
ถ่ายภาพใต้น้ำสวยงาม เพราะว่าการดำน้ำแบบ Free Diving นั้นไม่มีอุปกรณ์ต่างๆ ทำให้นักดำน้ำเคลื่อนไหวได้ง่าย และเข้าถึงธรรมชาติใต้ท้องทะเลได้ดีกว่า ส่งผลให้สามารถถ่ายภาพใต้น้ำได้สวยงามมากขึ้น
ฟิตร่างกาย เพราะว่าการดำน้ำแบบ Free Diving ถือว่าเป็นการออกกำลังกายชนิดหนึ่ง ทำให้นักดำน้ำได้มีการใช้กล้ามเนื้อหลายส่วน และเสริมสร้างระบบหายใจให้แข็งแรง ที่เปรียบเสมือนกับการออกกำลังกายให้ร่างกายแข็งแรงมากขึ้น
เป็นกิจกรรมที่ท้าทาย เพราะว่าการดำน้ำแบบ Free Diving นั้นจะต้องฝึกฝนทั้งร่างกาย และจิตใจให้แข็งแกร่ง รวมถึงทั้งการฝึกสมาธิ และการหายใจเป็นระบะบ อีกทั้งยังต้องลงไปใต้ท้องทะเลทั้งที่ไม่มีอุปกรณ์เสริมใดๆ จึงถือว่าเป็นกิจกรรมที่ท้าทาย และพิสูจน์ศักยภาพของตนเองได้ดี


2. ผู้หญิงใส่ชุดบิกินี่เล่น Free Diving ได้หรือไม่? และเมื่อลงน้ำด้วยชุดบิกินี่ต้องระวังเรื่องอะไรบ้าง?
สำหรับสาวๆ หลายคนที่มีข้อสงสัยว่าผู้หญิงใส่ชุดบิกินี่เล่น Free Diving ได้หรือไม่? คำตอบ คือ ผู้หญิงใส่ชุดบิกินี่ได้อย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นการดำน้ำในน้ำตื้น การฝึกดำน้ำในสระ การลงน้ำ เพื่อถ่ายภาพแฟชั่นใต้น้ำ หรือแม้แต่การเล่น Free Diving แต่ถึงแม้ว่าการสวมใส่บิกินี่จะให้ความรู้สึกเบาสบาย และเคลื่อนไหวได้อย่างสะดวกสบาย และคล่องตัว แต่การที่ผู้หญิงใส่ชุดบิกินี่ขณะดำน้ำแบบ Free Diving นั้นก็มีข้อควรระมัดระวังที่สาวๆ ควรรู้ไว้ เพื่อความปลอดภัย ความมั่นใจ และความเป็นส่วนตัวของตัวเอง ดังนี้
ความกระชับของชุดอาจไม่เพียงพอในการเคลื่อนไหวแบบอิสระ สำหรับการดำน้ำแบบ Free Diving ต้องการความลื่นไหลของร่างกายในการดำน้ำ การหมุนตัว หรือการเตะขาแรงๆ ถ้าหากชุดไม่ยึดติด หรือกระชับกับร่างกายดีพอ อาจเลื่อน หรือหลุดได้โดยไม่รู้ตัวได้
คลื่นน้ำ และแรงดันใต้น้ำอาจทำให้ชุดเปลี่ยนตำแหน่ง เพราะว่าการดำน้ำแบบ Free Diving นั้นจะต้องดำน้ำอย่างน้อย 5 เมตร ซึ่งจะมีแรงดันใต้น้ำ หรือการกระแทกของคลื่น ถึงแม้จะเล็กน้อย แต่ก็อาจทำให้ชุดบิกินี่เลื่อน หรือเปลี่ยนตำแหน่ง ที่สร้างความอึดอัดใจ หรือรู้สึกไม่มั่นใจระหว่างดำน้ำได้
อุณหภูมิน้ำที่เย็นอาจส่งผลต่อร่างกาย เนื่องจากบิกินี่ปกปิดร่างกายได้น้อย จึงไม่สามารถกันความเย็นได้ดี โดยเฉพาะในการดำน้ำแบบ Free Diving ในพื้นที่ที่น้ำเย็นจัด หรือใช้เวลานานใต้น้ำ ที่อาจเสี่ยงต่อการเป็นตะคริว หรือร่างกายเย็นเกินไปได้
เสี่ยงต่อการเกิดรอยแดง หรือแผลเสียดสี ถ้าหากบิกินี่มีรอยตะเข็บ หรือผ้าหยาบเกินไป เมื่อสาวๆ เคลื่อนไหวในน้ำเป็นเวลานาน อาจเกิดการเสียดสีที่รักแร้ รอบคอ หรือบริเวณขาหนีบได้ รวมถึงอาจได้รับการเสียดสี หรือสัมผัสจากสภาพแวดล้อม หรือสัตว์ทะเลได้ด้วย
ความไม่มั่นใจอาจรบกวนสมาธิการดำน้ำ เพราะว่าการดำน้ำแบบ Free Diving ต้องอาศัยความนิ่ง สมาธิ และจังหวะหายใจที่แม่นยำ ถ้าหากสาวๆ รู้สึกไม่มั่นใจในชุด อาจส่งผลให้ไม่กล้าขยับตัว หรือรู้สึกกังวลตลอดเวลาว่าชุดจะหลุด หรือโป๊ และส่งผลกระทบต่อการดำน้ำได้
ความเหมาะสมของสถานที่ และสภาพแวดล้อม ถ้า หากเป็นสถานที่ที่มีนักดำน้ำ หรือคนทั่วไปจำนวนมาก การใส่บิกินี่อาจไม่เหมาะสมในด้านความเป็นส่วนตัว และอาจทำให้สาวๆ รู้สึกไม่มั่นใจ หรือกังวลเรื่องชุดในขณะที่เคลื่อนไหวได้
การป้องกันแสงแดดไม่เพียงพอ ถึงแม้จะอยู่ใต้น้ำเป็นส่วนใหญ่ แต่การขึ้นลงจากน้ำ หรือการลอยตัวใกล้ผิวน้ำจะทำให้ผิวสัมผัสแสงแดดโดยตรง ซึ่งการใส่บิกินี่นั้นอาจปกปิดผิวไม่เพียงพอ และอาจส่งผลให้เกิดผิวไหม้ได้ง่าย ถ้าหากสาวๆ ไม่ได้ทาครีมกันแดดที่เหมาะสำหรับกิจกรรมใต้น้ำ
ดังนั้น ผู้หญิงใส่ชุดบิกินี่เล่น Free Diving สามารถใส่ได้ แต่ว่าสาวๆ จะต้องใส่ใจถึงเรื่องความปลอดภัย ความคล่องตัว และความสบายใจของตัวเองมาเป็นอันดับแรกเสมอ เพื่อให้สาวๆ ไม่ต้องมากังวลเรื่องชุดขณะดำน้ำ และได้เพลิดเพลินกับประสบการณ์ใต้น้ำอย่างเต็มที่


3. วิธีการเลือกชุดบิกินี่ให้เหมาะกับ Free Diving ที่สาวๆ ควรรู้ก่อนลงเล่นน้ำ!
สำหรับผู้หญิงใส่ชุดบิกินี่เล่น Free Diving นั้นควรทำการเลือกบิกินี่ให้ตอบโจทย์การใช้งาน และสภาพแวดล้อมในการดำน้ำ เพื่อให้มีความปลอดภัย สบายใจ และเคลื่อนไหวได้สะดวกสบายมากที่สุด โดยวิธีการเลือกชุดบิกินี่ให้เหมาะสมกับการเล่น Free Diving ที่สาวๆ ควรรู้ก่อนลงเล่นน้ำ มีดังนี้
เลือกชุดที่กระชับพอดีตัว ไม่หลวม และไม่คับเกินไป เพราะว่าการดำน้ำแบบ Free Diving นั้นร่างกายของสาวๆ จะต้องเคลื่อนไหวอย่างอิสระทั้งในแนวดิ่ง และแนวนอน ไม่ว่าจะเป็นการเตะขา หมุนตัว หรือดึงตัวลงสู่ความลึก ดังนั้น ชุดบิกินี่ที่ใส่จึงควรมีความกระชับพอดีตัว เพื่อไม่ให้เกิดการหลุด หรือเลื่อนเมื่อเจอกับแรงดันน้ำ หรือแรงต้านใต้น้ำ โดยเฉพาะท่อนบนที่ควรเลือกบราแบบ Sport Bra หรือ Crop Top ที่แนบกับทรวงอก และมีสายรัดที่มีความกระชับ และสำหรับท่อนล่างควรเลือกขนาดที่ไม่รัดแน่นจนบีบรอบสะโพก แต่ก็ไม่ควรหลวมจนหลุดขณะดำน้ำ
หลีกเลี่ยงบิกินี่ที่มีโครงลวด หรือเสริมฟองน้ำหนา เพราะว่าขณะดำน้ำนั้นร่างกายอาจจะรู้สึกอึดอัดได้ง่ายกว่าบนบก โดยเฉพาะเมื่อมีแรงกดจากน้ำรอบตัว ดังนั้น การใส่บิกินี่ที่มีโครงลวด หรือเสริมฟองน้ำหนาอาจทำให้เกิดการเสียดสี หรือกดทับหน้าอกเมื่ออยู่ในท่าหมอบใต้น้ำ หรือแนบลำตัวกับพื้นทะเล และวิธีการเลือกที่เหมาะสม คือ การเลือกบิกินี่แบบ Soft-cup ที่ไม่มีโครงแข็ง มีฟองน้ำบางเฉียบ หรือไม่มีเลยก็ได้ เพื่อให้สวมใส่สบาย และแนบกับลำตัวแบบไม่รู้สึกอึดอัด
สายคล้องควรเลือกแบบคล้องคอ หรือไขว้หลัง สำหรับสายบิกินี่นั้นมีผลต่อการทรงตัว และความมั่นใจในขณะดำน้ำของสาวๆ ได้ เพราะถ้าหากเลือกสายแบบตรงไหล่อาจเลื่อนหลุดเมื่อขยับแขนมากๆ หรือเตะขาแรงๆ ใต้น้ำ ดังนั้น ควรเลือกบิกินี่ที่มีสายคล้องคอ หรือสายที่ไขว้หลัง เพราะจะช่วยให้ชุดยึดติดกับร่างกายได้ดีขึ้น และลดโอกาสที่ชุดจะเลื่อนหลุดจากแรงต้านน้ำ โดยเฉพาะเมื่ออยู่ในท่าก้ม หรือหันตัวอย่างรวดเร็ว
ท่อนล่างควรเลือกแบบเอวสูง หรือมีขอบยางแน่นกระชับ ส่วนของกางเกงบิกินี่นั้นก็สำคัญไม่แพ้กับท่อนบน เพราะถ้าหากใส่แบบที่เอวต่ำ หรือผูกเชือกด้านข้าง จะทำให้มีความเสี่ยงต่อการเลื่อนหลุดสูงมากในเวลาขยับตัวเร็ว หรือว่ายในกระแสน้ำแรง ดังนั้น สาวๆ จึงควรเลือกแบบเอวสูงที่โอบกระชับช่วงเอว และสะโพก หรือเลือกกางเกงบิกินี่ที่มีขอบยางยืดแน่น ที่ช่วยล็อคชุดให้อยู่กับที่ เพิ่มความมั่นใจ และลดโอกาสโป๊จากการเคลื่อนไหวได้
เนื้อผ้าต้องทนทาน ยืดหยุ่น และไม่บางจนเกินไป สำหรับการดำน้ำต้องอาศัยความทนทานของชุดที่ใส่ เพราะต้องเจอกับแรงดึง และแรงดันของน้ำ รวมถึงความเค็มของน้ำทะเล เพราะถ้าหากสาวๆ เลือกบิกินี่ที่มีเนื้อผ้าที่บาง หรือคุณภาพต่ำ อาจทำให้เสียทรง หรือย้วยเร็ว ดังนั้น แนะนำให้เลือกชุดที่ทำจากวัสดุอย่าง Nylon-Spandex หรือ Polyester ที่มีคุณสมบัติยืดหยุ่นดี คืนรูปไว และมีความทนทานต่อน้ำเค็ม นอกจากนั้นยังควรเลือกชุดที่มีเนื้อผ้าหนาปานกลาง และไม่บางจนโปร่งเมื่อเปียกน้ำ เพื่อความมั่นใจให้กับสาวๆ เมื่อต้องลงน้ำด้วย
ดีไซน์เรียบง่าย ไม่มีของตกแต่ง หรือเชือกที่รุงรัง สำหรับการดำน้ำแบบ Free Diving นั้นสาวๆ จะต้องเลือกชุดบิกินี่ที่มีความเรียบง่าย เพื่อให้สาวๆ ทำการเคลื่อนไหวได้อย่างคล่องตัว สะดวก สบาย และปลอดภัยมากที่สุด เพราะถ้าหากเลือกชุดบิกินี่ที่มีดีไซน์ที่มีโบว์ใหญ่ เชือกห้อย เครื่องประดับโลหะ หรือของตกแต่งต่างๆ อาจทำให้เกิดแรงต้านในน้ำ ติดกับสน็อกเกิล หรือกระทั่งติดกับแนวปะการัง หรือสัตว์น้ำได้ง่าย ดังนั้น วิธีเลือกชุดที่ดีที่สุด คือ เน้นเลือกบิกินี่แบบมินิมอล เรียบหรู ไม่มีชิ้นส่วนที่เกะกะ โดยเฉพาะตรงช่วงอก และสะโพก
ลองใส่เคลื่อนไหวก่อนลงน้ำจริงทุกครั้ง ก่อนที่สาวๆ จะเลือกใส่บิกินี่ลงน้ำจริง ควรลองสวมใส่แล้วทดสอบเคลื่อนไหว เช่น หมุนตัว ยืดแขน เตะขา หรือกระโดดเบาๆ เพื่อเช็กว่าชุดไม่หลุด ไม่ลื่น และไม่รั้งร่างกายในจุดใดจุดหนึ่ง และถ้าหากมีจุดไหนที่ทำให้รู้สึกไม่มั่นใจ หลวม หรือแน่นจนเกินไป ควรเปลี่ยนทันที เพราะเมื่ออยู่ในน้ำแล้วนั้นการควบคุมร่างกายให้มั่นคงต้องมาจากความสบายในการเคลื่อนไหวด้วยชุดที่เหมาะสม
ดังนั้น การเลือกชุดบิกินี่สำหรับผู้หญิงใส่ชุดบิกินี่เล่น Free Diving ไม่ใช่แค่เพื่อความสวยงามเท่านั้น แต่ยังต้องคำนึงถึงการเคลื่อนไหว ความกระชับ และความปลอดภัยเป็นหลัก และถ้าหากสาวๆ เลือกได้เหมาะสม รับรองว่าไม่เพียงแค่ปลอดภัย และคล่องตัว แต่ยังได้ลุคสุดชิคที่พร้อมลุยทะเลลึกแบบมั่นใจอย่างแน่นอน


4. แนะนำ 5 คอลเลกชั่นบิกินี่จาก Rip Curl ที่ผู้หญิงใส่ชุดบิกินี่ควรมีติดตู้ไว้ หยิบมาใส่ได้ทุกทริป
สำหรับสาวๆ คนไหนที่กำลังมองหาบิกินี่เอาไว้ใส่ในทริป Free Diving ต้องห้ามพลาด 5 คอลเลกชั่นจาก Rip Curl ที่ผู้หญิงใส่ชุดบิกินี่ควรมติดตู้ไว้ ดีไซน์เรียบง่าย แต่ทันสมัย และ Timeless แบบสุดๆ ที่สาวๆ สามารถหยิบมาสวมใส่ได้บ่อยๆ แบบไม่ตกเทรนด์ โดยแต่ละคอลเลกชั่นนั้นก็จะมีรายละเอียดต่างๆ ดังนี้

4.1 Hello Pink Summer Collection
คอลเลกชั่น Hello Pink Summer เป็นคอลเลกชั่นผู้หญิงใส่ชุดบิกินี่ที่ทางทีมดีไซน์เนอร์ของ Rip Curl ได้มีการออกแบบมาให้เป็นแนว Sexy Cutie ด้วยการเลือกใช้โทนสีชมพูจัดจ้าน ที่มีให้เลือกทั้งแบบสีพื้นเรียบๆ และลวดลายดอกไม้แสนน่ารัก เสิร์ฟความฮาร์ทบีทคัลเลอร์โทนแบบหวานฉ่ำ มาแนวหวานๆ แต่ติดกลิ่นอายความชิคด้วยดีไซน์แพทเทิร์น มีให้เลือกสวมใส่ทั้งแบบบิกินี่ และวันพีซ มาพร้อมกับเนื้อผ้านุ่มลื่นสบายผิว กระชับพอดีตัว แต่ยังมีความยืดหยุ่น สวมใส่แล้วเคลื่อนไหวสะดวกสบาย ที่ไม่ว่าสาวๆ จะหยิบมาใส่ในทริป Free Diving หรือว่าทริปไหนๆ หรือจะทำกิจกรรมอะไร ก็สามารถตอบโจทย์ได้อย่างครบครัน
> ดูคอลเลกชั่น Hello Pink Summer เพิ่มเติม คลิก ที่นี่
(Facebook : https://www.facebook.com/share/p/168JyJut1s/ )

4.2 Shell Cove Collection
คอลเลกชั่น Shell Cove เป็นคอลเลกชั่นผู้หญิงใส่ชุดบิกินี่ที่ทางทีมดีไซน์เนอร์ Rip Curl ได้มีการออกแบบให้มีความน่ารัก สดใส แต่ยังคงกลิ่นอายของความวินเทจ และแฝงไปด้วยความเซ็กซี่แบบเบาๆ ด้วยการเลือกใช้สีชมพูสดใสในโทน Retro Color ตัดกับลวดลายเอกลักษณ์เฉพาะของคอลเลกชั่น Shell Cove ทำให้ภาพรวมของคอลเลกชั่นนี้มีกลิ่นอายของสไตล์ Retro อีกทั้งยังมีให้เลือกทั้งแบบบิกินี่ และแบบเสื้อแขนยาว มาพร้อมกับเนื้อผ้าที่มีส่วนผสมของ Lurex Pique Fabric 85% Polyamide, 12% Elastane และ 3% Metallic ทำให้เวลาที่สาวๆ สวมใส่นั้นจะให้ความรู้สึกที่มีความนุ่มลื่น สบายผิว มีความกระชับพอดีตัว แต่ยังคงความยืดหยุ่น ทำให้สวมใส่สบาย เคลื่อนไหวได้สะดวก ระบายอากาศได้ดี ไม่ร้อน ไม่อุ้มน้ำ ไม่อึดอัด เหมาะกับสาวๆ ที่อยากได้ชุดว่ายน้ำที่มีความเรียบง่าย แต่ยังมีสไตล์เฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใคร และตอบโจทย์การทำกิจกรรมอย่าง Free Diving ได้เป็นอย่างดี
> ดูคอลเลกชั่น Shell Cove เพิ่มเติม คลิก ที่นี่
(Facebook : https://www.facebook.com/share/p/1AjH7DtNoo/ )

4.3 Beach Party Collection
คอลเลกชั่น Beach Party เป็นคอลเลกชั่นผู้หญิงใส่ชุดบิกินี่ที่ทางทีมดีไซน์เนอร์ของ Rip Curl ได้มีการออกแบบมาให้มีความสวย แซ่บ เซ็กซี่ แต่ยังมีความน่ารัก สดใส และมีความยูนีคที่ไม่เหมือนใครตามสไตล์ของ Rip Curl โดยคอลเลกชั่นนี้ถูกขนานนามว่าเป็นคอลเลกชั่นที่ถ่ายทอดความสนุกแห่งการดีไซน์ และเปี่ยมล้นไปด้วยความชิคสุดจี๊ดที่สุดกับนิยามใหม่จาก Coastal-inspired Patchwork พร้อมการสไตล์ลิ่งสุดฉีกแบบ Tropical Havaiian แต่พกแฝงความขี้เล่นด้วย Bold and Playful Graphics ได้อย่างโดดเด่นชวนตกหลุมรักขึ้นไม่ไหว พร้อมกับเลือกใช้โทนสีสุดชิค และลวดลายที่มีกลิ่นอายความเป็น Rip Curl อีกทั้งยังใช้เนื้อผ้าที่มีความสบายผิว ระบายอากาศได้ดี กระชับพอดีตัว แต่ยังคงความยืดหยุ่น ไม่ว่าจะสวมใส่ทำกิจกรรม Free Diving เล่นน้ำ ว่ายน้ำ ถ่ายรูป หรือทำกิจกรรมแบบไหนก็ตอบโจทย์สาวๆ ได้ทุกกิจกรรม
> ดูคอลเลกชั่น Beach Party เพิ่มเติม คลิก ที่นี่
(Facebook : https://www.facebook.com/share/p/164TuVv8gQ/ )

4.4 Stephanie Gilmore Collection
คอลเลกชั่น Stephanie Gilmore เป็นคอลเลกชั่นผู้หญิงใส่ชุดบิกินี่ที่ทางทีมดีไซน์เนอร์ของ Rip Curl ได้มีการดีไซน์ออกมาภายใต้ไอเดียที่ต้องการนำความออเธนทิคจาก 'Stephanie Gilmore' หรือที่สาวๆ สายเซิร์ฟรู้จักกันดีกับเซิร์ฟเฟอร์สาวสุดไอคอนิคคนนี้ ที่การันตีด้วยแชมป์โลก 8 สมัย ที่ไม่มีไอคอนสไตล์คนใดในวงการเซิร์ฟหญิงจะยิ่งใหญ่ไปกว่า โดยในครั้งนี้กลับมาพร้อมความตื่นเต้นของการเดินทางครั้งใหม่กับ Signature Collection ที่ร่วมออกแบบกับ Rip Curl ทำให้คอลเลกชั่น Stephanie Gilmore มีดีไซน์ที่ถ่ายทอดความแข็งแกร่ง เรียบง่าย มินิมอล ความไม่หวือหวาที่ไม่ธรรมดาตามฉบับนักกีฬาตัวจริง มาพร้อมกับโทนสีขาว และน้ำเงินที่ทำให้มีความมินิมอล เรียบง่าย แต่ยังความโมเดิร์น มีให้เลือกทั้งแบบ One Piece และบิกินี่ ที่ให้สาวๆ ได้เลือกสวมใส่กันตามสไตล์ของตัวเอง ที่สามารถสวมใส่ได้ทุกช่วงวัย ได้ทุกโอกาส อีกทั้งยังมาพร้อมกับเนื้อผ้าที่มีความกระชับ แต่ยังยืดหยุ่น ที่ให้สาวๆ สามารถเคลื่อนไหวในเล่น Free Diving หรือทำกิจกรรมทางน้ำอื่นๆ ได้อย่างเต็มที่
> ดูคอลเลกชั่น Stephanie Gilmore เพิ่มเติม คลิก ที่นี่
(Facebook : https://www.facebook.com/share/p/1ANZmS88Sp/ )

4.5 Cala Vadella Collection
คอลเลกชั่น Cala Vadella เป็นคอลเลกชั่นผู้หญิงใส่ชุดบิกินี่ที่ทางทีมดีไซน์เนอร์ของ Rip Curl ได้มีการออกแบบมาให้มีความน่ารัก สดใส และสะดุดตา แต่ยังคงกลิ่นอายของความวินเทจ และ Timeless ด้วยการเลือกใช้โทนสีแบบ Multico ที่มาพร้อมกับการนำสีเหล่านั้นมาแต่งแต้มบนลวดลายใบไม้ และดอกไม้ที่ตัดด้วยสีต่างๆ อย่างลงตัว และเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ Rip Curl เท่านั้น อีกทั้งยังมีให้สาวๆ ได้เลือกสวมใส่ทั้งแบบบิกินี่ และแบบ One Piece ผลิตมาจากเนื้อผ้าแบบ Microfibre Lycra® Extra Life™ ที่มีความหนานุ่ม ลื่นสบายผิว ยืดหยุ่นได้ดี แต่ยังมีความกระชับผิว พอดีตัว สวมใส่สบาย ระบายอากาศได้ดี ไม่ร้อน ไม่อึดอัด ไม่ระคายเคืองผิว แห้งไว ดูแลรักษาง่าย ไม่ว่าสาวๆ จะเล่น Free Diving ทำกิจกรรมทางน้ำอื่นๆ หรือเที่ยวทริปไหนๆ ก็สามารถหยิบมาสวมใส่ได้แบบไม่ตกเทรนด์ และสนุกกับทุกกิจกรรมได้เป็นอย่างดี
> ดูคอลเลกชั่น Cala Vadella เพิ่มเติม คลิก ที่นี่
(Facebook : https://www.facebook.com/share/p/15xTdWukG1/ )


5. Tips สำหรับผู้หญิงใส่ชุดบิกินี่เล่น Free Diving ที่ควรรู้!
สิ่งสำคัญในการทำกิจกรรม Free Diving คือ การรู้ตัว และมีสมาธิกับตัวเองให้มากที่สุด ซึ่งถือว่าเป็นความท้าทายของสาวๆ หลายๆ คน แต่ว่าก่อนที่สาวๆ จะอยากท้าทายตัวเองลองเล่น Free Diving นั้นจะต้องระมัดระวังให้ดี เพราะถ้าหากเราไม่เข้าใจหลักการ และการเซฟตัวเองที่ถูกต้อง อาจทำให้เกิดการบาดเจ็บ หรือถึงขั้นหมดสติโดยไม่รู้ตัวก็ได้ โดย Tips ที่ผู้หญิงใส่ชุดบิกินี่เล่น Free Diving ที่ควรรู้ มีดังนี้
ต้องระวังอาการแรงดันอากาศใต้น้ำในหูไม่เท่ากันเมื่อดำน้ำ ก่อนที่สาวๆ จะดำน้ำลงไปลึกกว่าเดิม จาก 1-2 เมตร หรือมากกว่านั้น ต้องหมั่นสังเหตุอาการหูอื้อของตัวเองด้วย เพื่อจะได้รู้ว่าตัวเองสามารถฟรีไดฟ์ลงไปได้ลึกสุดที่เท่าไร และควรเบรกตัวเองตอนไหน และในระหว่างนั้นก็มีเทคนิคในการลดอาการหูอื้อ ดังนี้
Valsalva Maneuver เป็นหนึ่งในวิธีกลั้นลมก่อนไดฟ์ลงใต้น้ำ ด้วยการสูดหายใจเข้าลึกๆ ยาวๆ พร้อมกับบีบจมูกให้สนิท แล้วดำลงไป ก่อนจะค่อยๆ ผ่อนคลายลมทางจมูกทีละน้อยเพื่อให้ความดันของหูมีความสมดุล
Toynbee Maneuver เป็นวิธีแก้หูอื้อเวลาเจอกับความดันอากาศที่เปลี่ยนแปลง โดยวิธีนี้จะช่วยเคลียร์หูอื้อได้ด้วยการบีบจมูกปิดให้สนิท แล้วกลืนน้ำลายของตัวเอง เพื่อคลายแรงดันในหู
Lowry Technique เป็นวิธีที่ผสมผสานสองวิธีก่อนหน้าเข้าด้วยกัน โดยให้บีบจมูกปิดให้สนิท แล้วกลืนน้ำลาย พร้อมผ่อนลมออกทางปากทีละน้อยช้าๆ อย่างต่อเนื่อง
Frenzel Maneuver เป็นวิธีที่ค่อนข้างเป็นที่นิยม เพราะใช้ได้ในระหว่างอยู่ใต้น้ำ โดยบีบจมูกให้สนิทแล้วส่งเสียงคำว่า “อึง” ในลำคอ หรือถ้าใครถนัดเคลียร์หูแบบบีบปิดจมูกให้สนิทพร้อมกับออกแรงเป่าลมในขณะดำน้ำ ก็จะช่วยลดแรงดันใต้น้ำได้ในระดับหนึ่ง และทำให้สามารถฟรีไดฟ์ลงไปได้ลึกยิ่งขึ้น
เลือกชุดว่ายน้ำบิกินี่ที่ซัพพอร์ต และสวมใส่ง่ายสำหรับการ Freediving ก่อนไปเล่นกิจกรรมฟรีไดฟ์สิ่งที่สาวๆ จะลืมไปไม่ได้ และต้องตัดสินใจให้ดี คือ การเลือกชุดที่จะสวมใส่ทำการฟรีไดฟ์ โดยสาวๆ หลายๆ คนอาจเข้าใจว่าการ Freediving ต้องใส่ชุดเต็มตัว เพราะว่าชุดแบบนั้นน่าจะช่วยให้ถนัดมากกว่า แต่ความจริงแล้วไม่เกี่ยวกันเลย แถมการสวมใส่ชุดที่เบาสบายตัว และให้ความกระชับ แต่ไม่รัดร่างกายจนเกินไป จะสะดวกกับสาวๆ ที่อยากลองเล่นกิจกรรมนี้มากกว่า และที่สำคัญ คือ ใส่ดำน้ำแล้วสวยด้วยบิกินี่ หรือวันพีชยังไงก็เก๋กว่า แล้วถ้าหากเราได้ติดตามวีดีโอที่สาวๆ หนุ่มๆ ที่เขาเล่นฟรีไดฟ์กันมาก่อน ก็จะเห็นว่าส่วนใหญ่ ผู้หญิง ใส่บิกินี่กันตลอดเมื่อลงไปฟรีไดฟ์ เพียงแค่เลือกที่สามารถซัพพอร์ตการเคลื่อนไหวได้ดีมากที่สุดก็สามาถฟรีไดฟ์ได้แบบสบายๆ
มีครูผู้ฝึก หรือเพื่อนที่มีประสบการณ์ฟรีไดฟ์ไปด้วยเสมอ อีกหนึ่งข้อที่อยากแนะนำให้กับสาวๆ คือ ไม่ว่าเราจะเป็นคนที่กลั้นหายใจได้นานแค่ไหน เราก็ไม่ควรมั่นใจว่าเราจะฟรีไดฟ์ได้เลยทันทีตั้งแต่ครั้งแรกที่ลอง ดังนั้น ถ้าหากสาวๆ อยากเริ่มเข้าวงการ Free Diving ควรหาครูฝึก โค้ชกีฬา หรือเพื่อนๆ ที่มีประสบการณ์ในการดำน้ำฟรีไดฟ์ให้มาช่วยสอนวิธีการหายใจที่ถูกต้องก่อนเริ่มเล่น และเราควรจะพกพาเพื่อน หรือครูฝึกไปลงไปในชุดบิกินี่ใต้ท้องทะเลด้วยกันกับเราเสมอ เพื่อความปลอดภัยของตัวเราเอง และเป็นการเซฟกิจกรรมระหว่างทริปทะเลให้เป็นประสบการณ์ที่ดีที่สุด
เมื่อไรที่สาวๆ ได้ตกหลุมรักการเล่นกิจกรรม Free Diving แล้ว โดยส่วนใหญ่มักจะถอนตัวยากมาก ทั้งความสงบ ความสวยงามใต้ท้องทะเล ธรรมชาติ และเหล่าเพื่อนตัวน้อยที่แหวกว่ายใต้น้ำไปกับเรา ที่ถือว่าเป็นอีกสิ่งมหัศจรรย์ที่จะทำให้สาวๆ อยากกลับไปดื่มด่ำทัศนยีภาพใต้ทะเลอีกเรื่อยๆ และแน่นอนว่าสาวๆ ก็ต้องเตรียมชุดว่ายน้ำ หรือบิกินี่ให้พร้อมลุย เพราะผู้หญิงใส่ชุดบิกินี่อย่างเราจะพลาดเรื่องนี้ไม่ได้อย่างเด็ดขาด!


6. ผู้หญิงใส่ชุดบิกินี่ต้องห้ามพลาด! อัปเดตทุกคอลเลกชั่นบิกินี่จาก Rip Curl ได้ก่อนใครแล้ว วันนี้! ผ่านช่องทาง Official
สำหรับสาวๆ หรือผู้หญิงใส่ชุดบิกินี่คนไหนที่สนใจอยากจะเลือกซื้อชุดว่ายน้ำจากคอลเลกชั่นต่างๆ ที่ทาง Rip Curl ได้ทำการออกแบบดีไซน์ และสีสัน พร้อมกับเลือกเนื้อผ้า และตัดเย็บมาอย่างพิถีพิถัน เพื่อให้สาวๆๆ สามารถสวมใส่ได้อย่างสบาย สนุกกับทุกกิจกรรมได้อย่างเต็มที่ และสามารถมิกซ์แอนด์แมทช์กับเสื้อผ้าอื่นๆ เพื่อครีเอทลุคใหม่ๆ ได้อย่างสนุกสนานมากขึ้น ก็สามารถเลือกซื้อ และอัปเดตคอลเลกชั่นผู้หญิงใส่ชุดบิกินี่ได้ทุกคอลเลกชั่นก่อนใครที่เว็บไซต์ Official ของทาง Rip Curl Thailand ได้ที่ www.ripcurl.co.th หรือผ่านช่องทางออนไลน์อย่าง Shopee และ Lazada รวมถึงช่องทาง Offline ที่ Flagship Store ทั้ง 29 สาขาทั่วประเทศ ที่มีคอลเลกชั่นผู้หญิงใส่ชุดบิกินี่ รวมถึงคอลเลกชั่นอื่นๆ จาก Rip Curl ไม่ว่าจะเป็นชุดว่ายน้ำ กระเป๋า Surf Suit Boardshorts เสื้อยืด เสื้อกล้าม เสื้อเชิ้ต หรือ Clothing อื่นๆ และสินค้าอื่นๆ อีกมากมาย นอกจากนั้นยังสามารถติดตามโปรโมชั่นดีๆ และสามารถแชร์ Outfits จากการสวมใส่บิกินี่คอลเลกชั่นต่างๆ หรือสินค้าอื่นๆ จาก Rip Curl ผ่านช่องทางต่างๆ ได้เลยที่ …
Facebook : Rip Curl Thailand
Instagram : @Ripcurl_th
Website : www.ripcurl.co.th