เกร็ดน่ารู้ก่อนลงน้ำเล่น Freediving กิจกรรมท้าทายทริปทะเลสำหรับสาวๆ ได้เลือกบิกินี่ตัวโปรดพร้อมลงทะเล

เวลาไปทะเลแล้วมีกิจกรรมใหม่อะไรที่น่าสนใจบ้าง หลาย ๆ คนจะต้องตอบว่า Freediving แน่ ๆ เพราะกิจกรรมฟรีไดฟ์เปิดโอกาสให้ทั้งผู้ชาย และผู้หญิง ใส่บิกินี่สวยเล่นได้โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์ หรือชุดว่ายน้ำแบบเต็มตัว ทำให้สาว ๆ ส่วนมากเลือกที่จะใส่เป็น บิกินี่ หรือ บิกินี่วันพีช มาเล่นฟรีไดฟ์กัน 

Freediving คืออะไร การดำน้ำอีกรูปแบบหนึ่งต้องใช้สมาธิขั้นสูง เป็นฟรีไดฟ์ที่ใช้ Snorkel ไม่ใช้ถังออกซิเจน และไม่สวมชูชีพ แต่จะใช้ตีนกบเพื่อช่วยให้สามารถดำลงไปใต้น้ำได้ลึกยิ่งขึ้น ซึ่งขั้นต่ำก็คือลงไปใต้ท้องทะเลอย่างน้อย 5 เมตรขึ้นไป ส่วนสาเหตุที่การฟรีไดฟ์แบบนี้ใช้สมาธิขั้นสูงก็เพราะว่า ผู้ดำจะต้องจดจ่ออยู่กับลมหายใจของตัวเองตั้งแต่การกลั้นลมหายใจให้ดีก่อนดำน้ำ

โดยกระบวนการทั้งหมดนี้ก็เพื่อที่เราจะได้จดจ่อมีสมาธิกับวิวใต้ทะเลมากขึ้น พร้อมทั้งได้ใกล้ชิดและเป็นมิตรกับธรรมชาติมากยิ่งขึ้น แต่สิ่งที่หลาย ๆ คนอาจยังไม่แน่ใจและไม่รู้มาก่อนสำหรับการฟรีไดฟ์ คือข้อควรระวังเรื่อง แรงกดอากาศใต้น้ำที่จะเพิ่มขึ้นเมื่อเราดำน้ำไปลึกขึ้น เราจะจัดการหรือป้องกันหูของเราไม่ให้หูอื้อหรือปวดหูยังไง วันนี้ Rip Curl ขอแชร์ทริคเล็ก ๆ ที่จะช่วยเซฟตัวเราได้

Tips สำคัญสำหรับมือใหม่หัด Freediving

สิ่งสำคัญในกิจกรรมฟรีไดฟ์คือการรู้ตัวและมีสมาธิกับตัวเองให้มากที่สุดซึ่งเป็นความท้าทายมาก ๆ แต่หลายคนที่อยากท้าทายตัวเองลองเล่นฟรีไดฟ์ดู ต้องระวังให้ดี เพราะถ้าเราไม่เข้าใจหลักการและการเซฟตัวเองที่ถูกต้อง เราอาจจะบาดเจ็บ หรือถึงขั้นหมดสติโดยไม่รู้ตัวก็ได้

ก่อนที่เราจะดำน้ำลงไปลึกกว่าเดิม จาก 1-2 เมตร หรือมากกว่านั้น เราต้องหมั่นสังเหตุอาการหูอื้อของตัวเองด้วย เราจะได้รู้ว่าตัวเองสามารถฟรีไดฟ์ลงไปได้ลึกสุดที่เท่าไร ควรเบรกตัวเองตอนไหน แต่ไม่ใช่ว่าในระหว่างนั้นเราจะไม่มีวิธีป้องกันหูอื้อไปซะทีเดียว

ตัวอย่างเทคนิคการลดอาการหูอื้อก่อนลง Free dive

1. Valsalva Maneuver หนึ่งในวิธีกลั้นลมก่อนไดฟ์ลงใต้น้ำ สูดหายใจเข้าลึก ๆ ยาว ๆ บีบจมูกให้สนิท แล้วดำลงไป ก่อนจะค่อย ๆ ผ่อนคลายลมทางจมูกทีละน้อยเพื่อให้ความดันของหูสมดุลย์
2. Toynbee Maneuver เวลาเจอกับความดันอากาศที่เปลี่ยนแปลง วิธีนี้จะช่วยเคลียร์หูอื้อได้ด้วยการ บีบจมูกปิด แล้วกลืนน้ำลายของตัวเอง เพื่อคลายแรงดันในหู
3. Lowry Technique วิธีนี้เป็นการผสมผสานสองวิธีก่อนหน้า ให้บีบจมูกปิดให้สนิท แล้วกลืนน้ำลาย พร้อมผ่อนลมออกทางปากทีละน้อยช้า ๆ อย่างต่อเนื่อง

และมีเทคนิค Frenzel Maneuver วิธีนี้ค่อนข้างเป็นที่นิยมเพราะใช้ได้ในระหว่างอยู่ใต้น้ำ โดยบีบจมูกให้สนิทแล้วส่งเสียงคำว่า “อึง” ในลำคอ หรือถ้าใครถนัดเคลียร์หูแบบบีบปิดจมูกให้สนิทพร้อมกับออกแรงเป่าลมในขณะดำน้ำ ก็จะช่วยลดแรงดันใต้น้ำได้ในระดับนึง และทำให้ฟรีไดฟ์ลงไปได้ลึกยิ่งขึ้น

ก่อนไปเล่นกิจกรรมฟรีไดฟ์สิ่งที่เราลืมไปไม่ได้และตัดสินใจให้ดี คือการเลือกชุดไปฟรีไดฟ์นี่แหละ สาว ๆ หลายคนอาจเข้าใจว่าการ Freediving ต้องใส่ชุดเต็มตัวไหม ชุดแบบนั้นน่าจะช่วยให้ถนัดมากกว่า แต่ความจริงแล้วไม่เกี่ยวกันเลย แถมการสวมใส่ชุดที่เบาสบายตัวและให้ความกระชับแต่ไม่รัดร่างจนเกินไป จะสะดวกกับสาว ๆ ที่อยากลองเล่นกิจกรรมนี้มากกว่า และที่สำคัญคือใส่ดำน้ำแล้วสวยด้วยบิกินี่ หรือบิกินี่วันพีช ยังไงก็เก๋กว่า แล้วถ้าเราได้ติดตามวีดีโอที่สาว ๆ หนุ่ม ๆ เขาเล่นฟรีไดฟ์กันมาก่อน เราก็จะเห็นว่าส่วนใหญ่ ผู้หญิง ใส่บิกินี่กันตลอดเมื่อลงไปฟรีไดฟ์ 

อีกหนึ่งข้อที่อยากแนะนำก็คือ ไม่ว่าเราจะเป็นคนที่กลั้นหายใจได้นานแค่ไหน เราก็ไม่ควรมั่นใจว่าเราจะฟรีไดฟ์ได้เลยทันทีตั้งแต่ครั้งแรกที่ลอง ถ้าเราอยากเริ่มเข้าวงการ Freediving สาว ๆ ควรหาครูฝึก โค้ชกีฬา หรือเพื่อน ๆ ที่มีประสบการณ์ในการดำน้ำฟรีไดฟ์ให้มาช่วยสอนวิธีการหายใจที่ถูกต้องก่อนเริ่มเล่น และเราควรจะพกพาเพื่อนหรือครูฝึกไปลง Free dive ในชุดบิกินี่ด้วยกันกับเรา เพื่อความปลอดภัยของตัวเราเอง และเป็นการเซฟกิจกรรมระหว่างทริปทะเลให้เป็นประสบการณ์ที่ดีที่สุดเสมอ

เมื่อไรที่เราตกหลุมรักการเล่นกิจกรรมหรือกีฬา Free dive แล้ว เรามักจะถอนตัวยากมาก ทั้งความสงบ ความสวยงามใต้ท้องทะเล ธรรมชาติและเหล่าเพื่อนตัวน้อยที่แหวกว่ายใต้น้ำไปกับเรา นั้นเป็นอีกสิ่งมหัศจรรย์ที่จะทำให้เราอยากกลับไปดื่มด่ำทัศนยีภาพใต้ทะเลอีกเรื่อย ๆ และแน่นอน เราก็ต้องเตรียมชุดว่ายน้ำ ทั้งบิกินี่ หรือ บิกินี่วันพีชที่พร้อมลุยไปกับเรานะสาว ๆ ผู้หญิงใส่บิกินี่อย่างเราจะพลาดเรื่องนี้ไม่ได้เลยล่ะ

ดูชุด บีกินี่ ทุกรุ่นของริปเคิลได้ที่นี่ คลิกเลย

>>> https://ripcurl.co.th/collections/bikini