ฉลองวันครบรอบ 22 ปี แคมเปญ Rip Curl Planet Day
แคมเปญใหญ่สุดรักโลก ‘Rip Curl Planet Day’ กับแนวคิดการอนุรักษ์และอยู่ร่วมกันกับโลกอย่างฉันมิตร
วนกลับมาอีกครั้งกับ ‘Rip Curl Planet Day’ วันรักษ์โลกครั้งที่ 22 ที่ทาง Rip Curl ได้ร่วมกันสร้างและมารวมตัวกันอย่างพร้อมเพรียงเพื่อทำสิ่งนี้ ร่วมกับกับชุมชน และทีมอาสาเพื่อทำนุบำรุงรักษาธรรมชาติของโลก โปรเจกต์ ‘Planet Day’ เริ่มจากย่านทอร์คีย์ (Torquay) บริเวณติดชายฝั่งทะเล ของรัฐวิกตอเรีย ประเทศออสเตรเลีย ตั้งแต่เมื่อปี ค.ศ. 2000 ซึ่งวันนี้ของทุก ๆ ปี ทีมงานจาก Rip Curl Headquarters ทั่วโลก ตั้งแต่ที่บราซิล, ฝรั่งเศส, อินโดนีเซีย และสหรัฐอเมริกา จะเข้าไปยังพื้นที่ของโปรเจกต์ Planet Day ในวันทำงานเพื่ออนุรักษ์ให้แนวท่องชายฝั่งหรือ Surf Coast ยังคงธรรมชาติดั้งเดิมไว้ได้มากที่สุด หรือดียิ่งขึ้นกว่าเดิม
“Over 20 years of Planet Day shows how connected it is to our company and brand values. Our company value of community and environment is all about acting locally and thinking globally about how we can contribute to the community we live in, and the environment we live in.”
Brooke Farris – โดย Rip Curl CEO.
หลักคิด ‘Community and Environment’ ของแบรนด์ Rip Curl ที่ได้ตั้งวันรวมตัวอย่าง Planet Day ขึ้นมาอย่างเป็นทางการ คือ
- Preserve and Protect Our Oceans - การดูแลท้องทะเลโดยใส่ใจและดูแลสิ่งแวดล้อมในระบบนิเวศนั้นๆ
- Environmental Products - การสร้างผลิตภัณฑ์ที่สามารถสวมใส่ลงน้ำที่ตอบโจทย์การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
- Act Sustainably – การจัดตั้งวัน Planet Day เพื่อรวมตัวกันไปดูแลลงมืออนุรักษ์สิ่งแวดล้อมด้วยกำลังคน
การสร้างคุณค่านี้ให้มั่นคงในฐานะแบรนด์ไลฟ์สไตล์แฟชั่นที่ใส่ใจธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และชุมชนอย่างจริงจัง เพราะทีมงานได้ตั้งใจลงมือทำงานอนุรักษ์นี้อย่างเต็มที่ ทั้งพนักงานประจำ และพนักงานพาร์ทไทม์ประจำมากกว่า 170 คน จะเข้ามายังพื้นที่ Surf Coast นั้น ๆ โดยร่วมมือกับหน่วยงานในพื้นที่ ดังนี้
- Jan Juc Coastal Action
- Great Ocean Road Authority (GORA)
- Parks Victoria
- Surf Coast Shire
- Surf Coast Energy Group (SCEG)
- Torquay Coast Action
Rip Curl Planet Day ดำเนินการโปรเจกต์นี้ โดยการเริ่มพัฒนาพื้นที่ธรรมชาติของชายหาด Surf Coast 15 กิโลเมตร ตั้งแต่ Point Impossible beach ไปจนถึง Southside beach ของประเทศออสเตรเลีย และโปรเจกต์นี้ยังถูกขยายขอบเขตการอนุรักษ์พัฒนาไปยังชายหาดของประเทศอื่น ๆ อย่างหาดที่ San Clemente รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา, หาดที่ Hossegor ประเทศฝรั่งเศส, หาดที่ Kuta Bali ประเทศอินโดนีเซีย และ หาดที่ Sao Paulo ประเทศบราซิล ในระยะเวลา 22 ปี ของ Rip Curl Planet Day ทีมงานได้เข้าไปใช้เวลามากกว่า 18,700 ชั่วโมงในโปรเจกต์รักษาธรรมชาติแนวชายหาดนี้
ตั้งแต่เริ่มต้นโปรเจกต์อันยาวนานร่วม 22 ปีของ Rip Curl Planet Day ที่แนวชายหาดที่ทอร์คีย์ (Torquay) ประเทศออสเตรเลีย ณ จุดเริ่มต้นของโปรเจกต์นี้ ไปจนถึงแนวชายหาดอื่น ๆ ในโลก ทีมงาน Rip Curl ได้ดำเนินการเข้าไปพัฒนาพื้นที่ธรรมชาติมายาวนาน จนในปัจจุบันมีพืชพันธุ์ไม้พื้นเมืองปลูกอยู่ตามแนวท่องชายฝั่งและในละแวกนั้นมากกว่า 100,000 ต้น โดยความร่วมมือของทีมงานจาก Rip Curl และหน่วยงานอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในพื้นที่ โดยทางหน่วยงานที่ควบคุมดูแลพื้นที่ธรรมชาติในบริเวณนี้ได้แจ้งผลชี้วัดว่า พืชพันธุ์ที่ปลูกใหม่เหล่านั้นในโปรเจกต์ มีอัตราการรอดในพื้นที่และเติบโตอย่างอุดมสมบูรณ์มากถึง 80%
ความเห็นของเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในพื้นที่
Scott Hives – Great Ocean Road Coast & Parks Authority
“Weed management is one of things that if you don’t stay on top of it, it’ll get away from you and that’s where groups like Rip Curl come in handy with Planet Day which actually makes jobs like this possible. And that’s just the start of what’s been achieved with the Rip Curl Planet Day.”
Graeme Stockton – Surf Coast Energy Group
“It expedites the whole process of revegetation when we’ve got a keen group of people with us. It means the local community has been able to greatly expand the work we can achieve in any given year.”
Gabrielle O’Shea – Surf Coast Shire
“Planet Day makes a real difference to try and improve the quality of these areas, so they’re not deteriorating over time with urban pressures and increased development around the coast.”
กิจกรรมในวัน Rip Curl Planet Day จะมีทั้งการปลูกพืชพันธุ์ต้นไม้พื้นเมือง, กำจัดวัชพืชตามชายฝั่งและในพื้นที่ธรรมชาติใกล้ ๆ ขยายขอบเขตการดูแลเพิ่มขึ้นไปเรื่อย ๆ ทีละนิด, การดูแลพื้นที่ธรรมชาติที่มีความซับซ้อน ที่ต้องการการดูแลอย่างละเอียดอ่อน, การจัดการขยะและสิ่งแปลกปลอมที่เป็นภัยต่อระบบนิเวศ รวมไปถึงการวิจัยเพื่อสร้างระบบประหยัดน้ำประหยัดพลังงานเพื่ออนุรักษ์ธรรมชาติ เป็นต้น จุดมุ่งหมายของกิจกรรมทั้งหมดดังกล่าว คือการคงความอุดมสมบูรณ์ให้ระบบนิเวศในบริเวณชายฝั่ง สิ่งแวดล้อมรอบ ๆ และธรรมชาติให้มีความยั่งยืน ไม่ให้ถูกผลกระทบจากกิจกรรมของมนุษย์หรือเทคโนโลยีทำร้ายจนเสื่อมสภาพไป
และแน่นอนว่าทีมงานที่ได้เข้าร่วมโปรเจกต์ Rip Curl Planet Day ทุกปี มากันครบทุกตำแหน่งไม่เว้นสตาฟคนไหนหรือผู้บริหารท่านใดแน่นอน ทั้ง Chief Executive Officer, Global Product Manager Mens Surfwear, GM of Merchandise Planning, Membership Manager และ Global R&D / Sourcing Manager – Wetsuits ต่างคนต่างตำแหน่งต่างให้ความร่วมมือในการเข้าไปคลุกคลีกับงานปลูก ดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมในพื้นที่เหมือนเป็นโปรเจกต์งานวิจัยระยะยาวชิ้นหนึ่งที่ยังคงไม่มีวันกำหนดส่งไปอีกยาวนาน